เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุด
เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภทก็จะมีประโยชน์ในการใช้งานภายในชีวิตประจำวันที่แตกต่างกันออกไป แน่นอนว่าแต่ละอย่างก็จะขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานของแต่ละคน โดยที่ในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ ก็มีการพัฒนาออกไปอย่างล้ำหน้า ทำให้สามารถเพิ่มโอกาส มีตัวเลือกในการใช้งาน ให้ได้เลือกใช้งานเป็นจำนวนมาก และแน่นอนว่าสิ่งที่มาพร้อมกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านั่นก็คือ ค่าไฟ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาจัดอันดับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรกินไฟมากที่สุด
อันดับ 3 ตู้เย็น
แน่นอนว่าตู้เย็นคือเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็น เพราะสามารถเอาไว้แช่เก็บสิ่งของ เพื่อคงรักษาความสด สะอาด เพื่อที่จะนำมาใช้รับประทานได้อย่างมีคุณภาพ แน่นอนว่าตู้เย็นคือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเสียบปลั๊กเอาไว้ตลอดทั้งวัน ตลอดทั้งปี เพราะฉะนั้นค่าไฟก็จะรันเรื่อยๆ โดยค่าไฟคิดคร่าวๆ 600 หน่อยต่อปี และจะคิดค่าไฟรวมได้ประมาณ 2,520 บาทต่อปี และจะติดค่าไฟเป็น 50 หน่วยต่อเดือน หรือก็คือประมาณ 210 บาท ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเปิดปิดบ่อย ก็จะยิ่งสิ้นเปลืองอีกด้วย
อันดับ 2 เครื่องทำน้ำอุ่น
เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหนึ่งประเภท ที่มีความโดดเด่นในการใช้งานที่เฉพาะตัว นั่นก็คือ เครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งการเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นขนาด 6,000 วัตต์ ครั้งละ 20 นาที โดยเปิดทั้งเช้าและเย็นทุกวันใน 1 เดือน จะมีค่าใช้จ่ายตกอยู่ที่เดือนละ 360 บาทและถ้าเป็นระยะเวลา 1 ปี จะกินไฟทั้งหมด 1,460 หน่วยต่อปี และคิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 4,380 บาทต่อปี แน่นอนว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหนึ่งประเภท ที่ของมันต้องใช้ ของมันต้องมี
อันดับ 1 เครื่องปรับอากาศ
แน่นอนว่าอากาศของประเทศไทยที่ร้อนอบอ้าว คงไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทไหนที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีกว่า เครื่องปรับอากาศ ซึ่งก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดูดเงินต่อเดือนเป็นจำนวนมากด้วยเช่นเดียวกัน เพราะถ้าเปิดใช้งานต่อเนื่อง 12 ชั่วโมงใน 1 วัน Invertor 18,000 BTU จะกินไฟชั่วโมงละ 6 บาท วันละ 12 หน่วย (72 บาทต่อวัน) หรือคิดเป็นเดือนจะใช้จ่าย เดือนละ 2,100 บาท ตกปีละ 25,920 บาท แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยหนาวกว่าแอร์ที่เปิด ก็คือค่าไฟทุกสิ้นเดือนนี่แหละ
ข้อสรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่นำมาให้ดูกันในวันนี้ สังเกตได้ว่าอุปกรณ์ที่กินไฟเยอะส่วนใหญ่จะเป็นเกี่ยวกับการทำความร้อนและการทำความเย็น ซึ่งต้องบอกว่าทุกอย่างล้วนมีความจำเป็นในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นเลือกใช้งานให้เหมาะสม ทำความสะอาด เก็บรักษา และดูแลระบบการทำงานให้ดีอยู่เสมอ ก็จะสามารถช่วยเซฟเงินในกระเป๋าตังได้อย่างแน่นอน