นิทานการเงิน
เต่ากับต่ายเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ยังเด็ก เต่าเรียนได้คะแนนปานกลาง ส่วนต่ายเรียนเก่งขั้นเทพ
ทั้งสองจบมหาวิทยาลัยจากที่เดียวกัน คณะเดียวกัน ด้วยคะแนนที่ต่างกันแบบฟ้ากับเหว
เมื่อคะแนนไม่เท่า รายได้ ณ วันเริ่มต้นทำงานจึงแตกต่างกัน เต่าเริ่มต้นทำงานกับบริษัทเล็กๆ ด้วยค่าจ้าง 12,000 บาทต่อเดือน (ไหนรัฐบอกว่า 15K ไง) ส่วนต่ายนั้นได้เงินเดือนเริ่มต้น 22,000 บาท
ทุกครั้งที่ต่ายมองเต่า เขารู้สึกชื่นชมในตัวเองเสมอ … (กูแม่งโคตรเก่ง 555)
หลังเริ่มต้นทำงาน ทั้งสองมีวิถีชีวิตของตนเอง เต่าเองเป็นคนรู้จักตัวเอง สมถะ ได้เงินมาน้อย ก็ใช้น้อย เหลือเก็บเดือนละ 3,000 บาท สิ้นเดือนนำไปสะสมไว้ในหุ้นที่เขาศึกษาเป็นอย่างดีทุกเดือน ปลายปีมีโบนัส ก็แบ่งครึ่งหนึ่งไปสะสมไว้ในหุ้นอีกต่อหนึ่ง
ส่วนต่ายนั้นเต็มที่กับชีวิต การได้ทำงานเหมือนเป็นการปลดปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระจากครอบครัว หาเงินได้เอง ก็ใช้เอง และใช้เต็มที่เสียด้วย ได้เท่าไหร่ก็ใช้หมด ยิ่งโบนัสออกยิ่งซื้อยิ่งสร้างหนี้ …
ต่ายเหลือบมองเต่า และแอบยิ้มในใจว่า แค่ 3,000 บาทต่อเดือน ต่อให้เก็บทั้งปี ก็ยังสู้โบนัสที่เขาได้ปีเดียวไม่ได้เลย (555 หัวเราะแบบจอมมาร)
ชีวิตคนเรานั้นผ่านไปเร็วเสมอ 10 ปีผ่านไป ทั้งสองเติบโตในหน้าที่การงาน เต่าได้เลื่อนตำแหน่ง และเพิ่มเงินเดือนเป็น 22,000 บาท ในขณะที่เต่าไปไกลขึ้นเรื่อยๆ เขาได้ 35,000 บาท บวกค่าตำแหน่งอีก 5,000 ว้าววววว
เงินเปลี่ยนไป แต่ “นิสัย” คนเรายังเหมือนเดิม เมื่อหาได้เพิ่ม เต่าก็เก็บสะสมเงินเพิ่มเป็น 5,000 บาททุกเดือน ในขณะที่ต่าย ยังเต็มที่กับชีวิต เพราะชีวิตของเรา … ใช้ซะ
20 ปีผ่านไป … เต่าและต่ายพบกันอีกครั้งในงานเลี้ยงรุ่น ต่ายเล่าถึงเงินเดือนและความเติบโตในหน้าที่การงาน จนเพื่อนๆ ต่างยกนิ้วให้ และติดตามฟังด้วยความชื่นชม
เมื่อถามถึงเต่า … เขาบอกว่าคงไม่คิดจะทำงานต่อแล้ว เพราะมีเงินพอดูแลชีวิตเรียบง่ายของเขาและครอบครัว … ร่วม 20 ล้านบาท
20 ปี กับเงินแค่ 3,000 5,000 เต่าทำเงินมากขนาดนั้นได้อย่างไร ….
นี่คือ ตัวอย่างของหนังสือ “นิทานการเงิน” ที่ผมจะเขียนให้เด็กมัธยมทั้งประเทศได้อ่านกัน …
ว่าแต่ … คุณผู้อ่านนึกออกมั๊ยว่า เรื่องข้างต้นได้แรงบันดาลใจจากนิทานเรื่องอะไร
ขอบคุณที่มา : https://www.facebook.com/MoneyCoach4Thai