ไวรัส เป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่ใช้งานงานอินเทอร์เน็ต และคอมพิวเตอร์ ที่ถือว่าเป็นปัญหาที่หนียังไงก็หนีไม่พ้น ที่บางทีอาจจะมาจากแฟลชไดร์ฟ หรือ การดาวน์โหลดไฟล์จากอินเทอร์เน็ต ซึ่งไวรัสจะเป็นตัวก่อตัว ที่จะมีความแตกต่างกันออกไป ของประเภทต่างๆ ที่จะสร้างความรำคาญ ไปจนถึงขั้นขโมยข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญ ที่ส่งผลกระทบทั้งบุคคลทั่วไป และบริษัท องค์กรต่างๆ ที่มีโอกาสเกิดความเสียหาย ที่อาจจะถูกเจาะจงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ
โดยเฉพาะระดับองค์กร หรือบริษัทชั้นนำต่างๆ ที่มักจะถูกเกจาะจงจากคู่แข่งระหว่างการค้า ที่อาจจะส่งผลให้เกิดความรุนแรง และความเสียหายร้ายแรง ผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจนั้นๆ อาจถึงขั้นไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งรายได้ และภาพลักษณ์ ยกตัวอย่างเช่น องค์กรที่มีข้อมูลจัดเก็บเป็นจำนวนมากและมีการนำข้อมูลขึ้น Cloud Server ในส่วนนี้มีทั้งแบบ ติดตั้ง Server เองที่สำนักงาน หรือ ใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอก อาจมีพนักงานอัปโหลดไฟล์อันตรายขึ้น Cloud server ไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าหากมีพนักงานที่เข้ามาใช้งานระบบต่างๆ โดยไม่รู้ และไม่มีวิธีแก้ไข ก็อาจจะทำให้ติดไวรัสไปด้วย หรือแม้กระทั่งการตั้ง Web Server เพื่อให้บริการ Web ที่ต้องรับข้อมูลจากผู้ใช้เป็นจำนวนมาก อาจจะไม่สามารถคัดกรองได้หมด การมี Anti-Virus ก็จะสามารถช่วยป้องกันในส่วนนี้ได้
Anti-Virus คืออะไร ?
สำหรับทุกคนที่ใช้เครื่องมือสื่อสาร และอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีต่างๆ น่าจะรู้จัก Anti-Virus กันอยู่แล้ว ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้งาน หลากหลายประเภท คงจะเป็นเรื่องยากถ้าหากไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ว่าจะเลือกใช้งานรูปแบบไหน ที่จะเหมาะกับการใช้งาน และมอบประสิทธิภาพได้อย่างดีที่สุด สำหรับโปรแกรมป้องกันไวรัส หรือ แอนติไวรัส (Antivirus Software) หลักการสำคัญก็คือเป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่อคอยตรวจจับ ป้องกัน และกำจัดโปรแกรมคุกคามทางคอมพิวเตอร์หรือมัลแวร์ เช่น ไวรัส เวิร์ม โทรจัน สปายแวร์ แอดแวร์ และซอฟต์แวร์คุกคามประเภทอื่นๆ ถ้าหากเลือกใช้งานถูกประเภท หรือเหมาะสมกับผู้ใช้งาน ก็จะสามารถป้องกันเหตุการณ์ต่างๆ ได้ในระดับที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน
โปรแกรม Antivirus มี 2 แบบหลักๆ คือ
- แอนติไวรัส (Anti-Virus) เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสทั่วๆ ไป จะค้นหาและทำลายไวรัสในคอมพิวเตอร์ของเรา
- แอนติสปายแวร์ (Anti-Spyware) เป็นโปรแกรมป้องกันการโจรกรรมข้อมูลจากไวรัสสปายแวร์และจากแฮกเกอร์ รวมถึงการกำจัด Adsware ซึ่งเป็นป๊อปอัพโฆษณาอีกด้วย
โปรแกรม Anti-Virus มีหน้าที่การทำงาน 2 ลักษณะ ได้แก่
- ระบุชื่อของไวรัสที่รู้จัก
- ตรวจสอบผลของการทำลายจากไวรัสในแฟ้มต่างๆ
วิธีการทำงานของโปรแกรม Anti-Virus
สำหรับวิธีการทำงานของโปรแกรม Anti-Virus ทั่วไป จะทำหน้าที่ในการค้นหา และทำลายไวรัส หรือสิ่แปลกปลอมที่ไฟล์โดยตรงทันที ที่จะเป็นวิธีที่ทำให้เกิดความเสียหาย หรือผลกระทบที่น้อยที่สุด แต่ในทุกๆ วันจะมีไวรัสชนิดใหม่เกิดขึ้นมาเสมอ เพราะฉะนั้นผู้ใช้งาน จึงจำเป็นต้องอัปเดทโปรแกรมให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญแต่ละบริษัทอาจมีรูปแบบการทำงานและหน้าตาของโปรแกรม Anti-Virus ที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงอาจจะมีการอัปเดต และการป้องกันที่ไม่เหมือนกัน โดยปกติแล้วการทำงานของคอมพิวเตอร์ไม่ควรที่จะมีโปรแกรม Anti-Virus 2 โปรแกรม หรือมากกว่านั้น เพราะอาจจะทำให้การทำงานของโปรแกรมทั้งสองเกิดความขัดแย้ง และไม่สามารถทำงานออมาได้เต็มประสิทธิภาพ