ในจดหมายถึงนักลงทุน นาย Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้ง Google กล่าวถึงการพัฒนาอันรวดเร็วของเครื่องประมวลผล โดยเขากล่าวว่าเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับขุด Ethereum และคริปโตอื่น ๆ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกระแสการพัฒนาที่ก้าวกระโดดนี้
นาย Brin เขียนว่า มีปัจจัยหลายตัวที่ส่งผลให้เกิดการใช้คอมพิวเตอร์ที่แพร่หลายมากขึ้น
“ปัจจัยแรกคือ กฎของมัวร์ (Moore’s Law) อธิบายถึงปริมาณของทรานซิสเตอร์บนวงจรรวม จะเพิ่มเป็นเท่าตัว ในเวลาประมาณทุก ๆ สองปี เช่นพวกความเร็วในการประมวลผล, ความจุของแรม, เซ็นเซอร์ หรือจำนวนพิกเซลของกล้องดิจิทัลเป็นต้น”
“ปัจจัยที่สองคือ ความต้องการของเครื่องประมวลผลที่เพิ่มขึ้น เช่นพวกการ์ดจอ ส่วนนึงมาจากเหล่าเกมเมอร์ และที่น่าตกใจคือส่วนใหญ่เกิดจากเหล่านักขุดคริปโตทั้งหลายที่ใช้การ์ดจอในการขุด Ethereum และความต้องการสำหรับเครื่องขุด ASIC ต่าง ๆ”
ถึงแม้ปัจจัยดังกล่าวทั้งสองจะเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนมองว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการสร้างกระแสครั้งนี้ แต่เขาเห็นว่า Machine Learning เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการทำให้กระแสนี้เกิดขึ้น
Machine Learning หรือ การเรียนรู้ของเครื่องจักร คือ เทคนิคที่ใช้ในการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้มันสามารถขับรถ, จดจำใบหน้า หรือแปลภาษาได้ด้วยตัวมันเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งคำสั่งจากมนุษย์
ถึงแม้ว่า Google จะศึกษาถึงศักยภาพของเทคโนโลยี Blockchain จาก Bitcoin และ Ethereum อยู่ แต่พวกเขาไม่ได้ก็ไม่ได้ออกมาแสดงออกถึงจุดยืนของตัวเองกับ Cryptocurrencies แต่อย่างใด พวกเขายังได้ทำการแบนส่วนเสริมของบราวเซอร์สำหรับการขุดคริปโต และโฆษณาที่เกี่ยวกับ ICO อีกด้วย
ที่มา : https://siamblockchain.com/2018/05/02/google-refer-to-cryptocurrencies/
